อะไรทำให้ Netflix สามารถรอดผ่านมรสุม Digital Disruption และคลื่นความเปลี่ยนแปลงหลายครั้งมาได้?
Netflix ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 โดย Marc Randolph และ Reed Hastings สองผู้ประกอบการจากแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในช่วงแรกของธุรกิจ Netflix เป็นบริษัทที่ให้เช่าแผ่น DVD ออนไลน์ โดยลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกรายการภาพยนตร์ที่อยากดู จ่ายค่าเช่า และ Netflix จะจัดส่งแผ่น DVD ไปให้ลูกค้าที่บ้าน เมื่อลูกค้าดูภาพยนตร์เรียบร้อย ลูกค้่่าจึงทำการส่ง DVD กลับมาทางไปรษณีย์
ไม่นานในปี 2002 Netflix ได้ทดลองระบบ Personalized Movie Recommended ระบบแนะนำภาพยนตร์ ที่ออกแบบเฉพาะให้กับแต่ละความชอบของบุุคคล โดย Netflix ให้ลูกค้่าให้คะแนนภาพยนตร์ที่ตนเองเช่าไปดู เพื่อทำการวิเคราะห์ว่า ภาพยนตร์ลักษณะไหนโดนใจลูกค้า
ในขณะที่บริษัทมากมายที่ให้เช่าแผ่น DVD เริ่มปิดตัวลง ในปี 2005 บริษัท Netflix มีจำนวนผู้ใช้งานในระบบให้เช่า DVD ออนไลน์สูงถึง 4.2 ล้านคน
Netflix ได้เริ่มปล่อยการดูภาพยนตร์และรายการทีวีออนไลน์แบบ Live Streaming ในปี 2007
Netflix ไม่หยุดอยู่แค่นั้น ในปี 2008-2009 Netflix ได้พารท์เนอร์กับ Xbox36, เครื่องเล่น Blu-Ray disc, และ Interenet TV เพื่อปล่อย live streaming ที่เป็นเนื้อหาภาพยนตร์จากแพลตฟอร์มของตนเอง
จากโมเดลธุรกิจให้เช่า หรือ Rental Business ได้เปลี่ยนเป็น Subscription สร้างรายได้จากการให้บริการภาพยนตร์และทีวีออนไลน์รายเดือนโดยสมบูรณ์แบบ
หากมองโดยผิวเผิน ดูเหมือนว่า Netflix จะรอดผ่านดิจิทัล ดิสรัปชั่น มาได้เพราะเทคโนโลยี Live Streaming ของตนเอง แต่อย่าลืมว่า เทคโนโลยีนี้ไม่ได้มีแค่ Netflix ที่ทำได้
สิ่งที่ Netflix ทำได้ดีมาโดยตลอดในระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ คือ การไม่ "ยึดติด" ในตัวตนของธุรกิจไม่เคยมองว่าตนเองเป็นเพียงบริษัทให้เช่าแผ่น DVD เท่านั้น และไม่เคยยึดติดว่านี้คือรูปแบบเดียวในการทำธุรกิจ
นอกจากการไม่ "ยึดติด" ในตัวตนแล้วนั้น หากวิเคราะห์ด้านนวัตกรรม จะเห็นได้ว่า Netflix มีนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ ตั้งแต่นวัตกรรมด้านโมเดลธุรกิจ (Business Model Innovation) นวัตกรรมด้านการสร้างคู่ค้่าทางธุรกิจ (Network Innovation) และนวัตกรรมด้านบริการ (Personalized Service Innovation)
และแม้ว่า Netflix จะไม่เคยยึดติดในตัวตน แต่ Netflix ไม่เคยลืมว่าลูกค้าต้องการอะไร สิ่งที่ลูกค้าต้องการไม่ใช่แค่การเช่าแผ่น DVD แต่คือการยกเอา "ภาพยนตร์" ไปไว้ที่บ้าน
Netflix มีความกล้าในการ "ลืม" ตัวตนของธุรกิจและก้้าวไปไกลกว่าการ "ให้เช่า DVD"
การกล้าที่จะ "ลืม" อาจไม่ต่างจากการกล้า "เริ่มต้นใหม่" เปิดโอกาส เปิดใจ และสร้างเป็นไปได้ใหม่ในธุรกิจที่อาจคาดไม่ถึงมาก่อน
Comments