top of page
Writer's pictureธีรพล อำไพ

LINE VOOM กับสถิติที่น่าสนใจ

Updated: Jul 24, 2023


ในปัจจุบัน LINE VOOM มีการนับสถิติว่ามีคนใช้เวลากับส่วนนี้เพิ่มถึง 200% โดยเป็นการดูคอนเทนต์ต่างๆ มากถึง 3,900 ล้านวิวจากยอดการสร้าง Engagement สูงสุดเฉลี่ยที่ 500,000/วัน ซึ่ง 50% ของผู้ใช้ LINE VOOM มี Time Spent 40-50 นาที/วัน


แบ่งเป็นผู้ใช้หลัก 57% ต่างจังหวัดและในกรุงเทพที่ 43% และผู้ใช้หญิงนับเป็น 53% ขณะที่ผู้ชายเป็น 47%


การชมคอนเทนต์ 32% เป็นผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ในขณะที่ 27% (อายุ 30-39 ปี) โดยการที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ อาจจะมาจากจุดด้อยของ LINE VOOM ที่มีลูกเล่นในการลงวิดีโอได้ไม่มากนักเหมือนดั่งเจ้าอื่นๆ จึงทำให้คนกลุ่มนี้มองว่าไม่ซับซ้อนใช้งานง่าย


Active Users ของ LINE VOOM คือ 35 ล้านราย นับเป็นอันดับที่สามที่มีคนใช้มากที่สุด รองจากผู้ใช้ LINE ทั้งหมด 53 ล้านราย และ Line Today 40 ล้านราย


ช่วงเวลาที่คนใช้มากที่สุดคือ ก่อน 10.00 น. และ หลัง 22.00 น.


สัดส่วนรายได้ของผู้ใช้ LINE VOOM คือ

  • รายได้ระดับ D (รายได้ต่อเดือนต่อครอบครัวน้อยกว่า 20,000 บาท) สัดส่วน 1%

  • รายได้ระดับ C (รายได้ต่อเดือนต่อครอบครัว 20,000 - 39,999 บาท) สัดส่วน 21%

  • รายได้ระดับ B (รายได้ต่อเดือนต่อครอบครัว 30,000 - 49,999 บาท) สัดส่วน 51%

  • รายได้ระดับ A (รายได้ต่อเดือนต่อครอบครัว 50,000 - 69,999 บาท) สัดส่วน 27%

ประเภทคอนเทนต์ที่คนใช้ LINE VOOM สนใจ Top 3 ตลอดสามปี

2020

2021

2022

ข่าว

60%

73%

81%

Funny Clip

55%

65%

70%

มิวสิกวิดีโอและเพลง

47%

56%

57%

ที่มาและความหมายของชื่อ VOOM


ในปี 2021 ด้วยการมาของเทรนด์วิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง LINE จึงเปลี่ยนชื่อจาก TIMELINE เป็น VOOM ที่มีชื่อมาจาก Video Room + Visual Room + Boom ซึ่งจะเน้นวิดีโอเป็นหลัก และ Text กับ ภาพเป็นรอง แต่หลังจากเปลี่ยนมา 2 ปีพบว่ายอดผู้ใช้งานไม่ค่อยเติบโตนั่นเป็นเพราะ LINE VOOM ยังอยู่ในช่วงหาแนวทางของตัวเองจากการเข้าใจผู้ใช้ว่าคือกลุ่มใด ชอบคอนเทนต์แนวใด เพื่อนำไปสู่จุดแข็งที่แตกต่าง


จนปีนี้ LINE VOOM เริ่มได้แนวทางโดยแบ่งเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ

  1. วางตัวเป็น Utilitainment Content (Utility + Entertainment) เพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อและปิดช่องว่างระหว่าง Generation

  2. LINE VOOM จะให้ความสำคัญกับ Local Content มากขึ้น เช่น กิจกรรม "ใครไม่เกิด...บ้านเกิด" ที่ให้ Creator มานำเสนอวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร ผ่านคอนเทนต์ใน VOOM

  3. ให้ความสำคัญกับ Branded Content และตัวที่ไลน์นำเสนอผ่านแคมเปญต่างๆ

  4. พัฒนา AI นำเสนอ Personalize Content ที่ตรงจริตกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

ประเภทคอนเทนต์สำหรับ LINE VOOM


  1. Photo

  2. Video

  3. Sticker

  4. Map

  5. Coupon

  6. Survey

ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ และรูปแบบการนำเสนอเพื่อให้เข้าถึงและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของ LINE VOOM ที่มีมากขึ้นนั้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ครบเครื่องสำหรับนักการตลาดที่ควรจะเรียนรู้ เข้าใจและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ

16 views0 comments

Comments


bottom of page