1. BE REAL
ยิ่งเราอยู่ในโลกที่มีข้อมูลจำนวนมาก บวกกับการประดิษฐ์เสริมเติมแต่งข้อมูลที่ทำได้ง่ายขึ้น ยิ่งทำให้ข้อมูลท่วมท้นมหาศาล ดูเหมือนว่า "ความจริงและความเรียบง่าย" กลับเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด หลายแบรนด์เลือกที่จะนำเสนอมุมมองบางมุมของแบรนด์ เช่น ตัวตนของผู้ก่อตั้ง เบื้องหลังของการทำงาน เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิด Emotional Connection ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ช่องทางที่เป็น Personal Channel บอกเล่าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เช่น Instagram ของเจ้าของแบรนด์ อาจเล่าตัวตนของแบรนด์ได้ดีไม่แพ้ช่องทาง Official Channel
2. ORCHESTRATOR
แปลตรงตัวคือ เป็นผู้นำวงดนตรีของคุณเอง ลองจินตนาการถึงการบรรเลงวงดนตรีคลาสสิคที่มีผู้เล่นดี ๆ มากมายบนเวที แต่ไม่มีคอนดักเตอร์ควบคุมจะเป็นอย่างไร ธุรกิจของเราก็คงไม่ต่างกัน ความหมายคือการสร้างแบรนด์ในสมัยนี้ เปิดโอกาสให้เจ้าของแบรนด์สามารถสื่อสารและควบคุม Mood & Tone ของ แบรนด์ นำเสนอประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้หลายช่องทางครบทุกมิติ เช่น การมีช่อง YOUTUBE ของเราเองคอยอัพเดพสินค้าและบริการใหม่ ๆ หรือ WEBSITE ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลพื้นฐานสำคัญ
3. CONTENT SUPPLY CHAIN
ทุกคนทราบว่าการทำ Content เป็นเรื่องสำคัญ และมักได้ยินอยู่เสมอว่า Content is the king แต่กลยุทธ์ที่จะทำให้แบรนด์ชนะ คือการบริหารจัดการ Content ที่ดี ลองคิดเสมือนว่าแบรนด์ของเราเป็น "บริษัทโฆษณา" บทบาทของนักการตลาดจะเปลี่ยนไปเป็นนักคิดสร้างสรรค์ (Creative) และนักบริหารจัดการ Content (Art Director) ที่ทำให้แบรนด์มีเรื่องราวที่จะนำเสนอและสื่อสารกับผู้บริโภค แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียว แต่อาจเกิดเป็นเรื่องราวหลากหลายที่โดนใจผู้บริโภคได้หลากกลุ่มมากขึ้น
4. DATA DRIVEN BRANDING
แม้แบรนด์จะเป็นเรื่องของความเชื่อ แต่ความเชื่อที่ปราศจากการพิสูจน์หรือข้อมูลที่ดีนั้น ก็อาจเป็นเพียงแค่ความเชื่อของเจ้าของแบรนด์เท่านั้น ดังนั้น คนทำแบรนด์ไม่ควรที่จะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ที่ใช้เพียงอารมณ์อย่างเดียวหรือตัดสินด้วยคนคนเดียว หากแต่ควรที่จะใช้เหตุผลประกอบ คือการนำข้อมูลจำนวนมากมาตัดสินใจ โดยข้อมูลนั้นก็จะมาจากการวางโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทางด้าน IT ขององค์กรที่ดีนั่นเอง
5. TOUCH (POINT) SCREEN
อย่างที่ทราบว่าหน้าที่ของแบรนด์คือการสร้าง Bonding (สายสัมพันธ์) กับลูกค้า แล้วสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็มาจาก Touch Points ในแต่ละจุดที่แบรนด์สร้างนั่นเอง คนทำแบรนด์จึงต้องให้ความสำคัญกับ UX / UI ต่าง ๆ เพื่อออกแบบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ที่เส้นแบ่งระหว่างสองโลกนี้ค่อยๆจางลงเรื่อยๆในยุคดิจิทัล
Comments